Microsoft กำลังพลิกโฉมการพัฒนาส่วนต่อประสานภาษาธรรมชาติด้วยการสร้างนวัตกรรมของพวกเขา นั่นคือไลบรารี TypeChat พิสูจน์ความเชื่อมโยงระหว่างเทคโนโลยีที่หลากหลาย ห้องสมุดทำหน้าที่เป็นสะพานเชื่อมระหว่างภาษาธรรมชาติ สคีมาของแอปพลิเคชัน และ API เป็นการยืนยันความมุ่งมั่นของ Microsoft ต่อเทคโนโลยีเชิงบูรณาการและเป็นแบบอย่างของการประยุกต์ใช้ generative AI และ TypeScript สำหรับการสื่อสารกับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM)
ในการประกาศเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม ทีมงานที่มี Anders Hejlsberg เพื่อนร่วมงานด้านเทคนิคของ Microsoft และลีดสำหรับ C# และ TypeScript ได้เปิดเผยการเปิดตัว TypeChat โดยระบุลักษณะโอเพ่นซอร์สและความพร้อมใช้งานบน GitHub
การเปิดตัวไลบรารี TypeChat มีวัตถุประสงค์เพื่อจัดการกับความซับซ้อนที่เผชิญระหว่างการพัฒนาอินเทอร์เฟซภาษาธรรมชาติ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแอปต้องพึ่งพาแผนผังการตัดสินใจที่ซับซ้อนเพื่อยืนยันเจตนาและรวบรวมข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการดำเนินการ
วิธีการใหม่ที่ใช้โดย TypeChat แทนที่แนวทางวิศวกรรมพร้อมท์แบบออร์โธดอกซ์ด้วยวิศวกรรมสคีมา ที่นี่ นักพัฒนามีอิสระในการกำหนดประเภทที่แสดงถึงเจตนาที่สนับสนุนอย่างถูกต้องในแอปพลิเคชันภาษาธรรมชาติ ช่วงของแอพพลิเคชั่นที่ซับซ้อนหรือเรียบง่ายอาจแตกต่างกันไป ตั้งแต่แอพดนตรีหรือแอพตะกร้าสินค้าไปจนถึงอินเทอร์เฟซที่เรียบง่ายเพื่อระบุความรู้สึก
เมื่อนักพัฒนากำหนดประเภทเหล่านี้ TypeChat จะกำหนดพรอมต์สำหรับ LLM ตามประเภทเหล่านี้และตรวจสอบว่าการตอบสนองของ LLM เป็นไปตามสคีมา นอกจากนี้ เมื่อใดก็ตามที่กระบวนการตรวจสอบล้มเหลว การโต้ตอบกับโมเดลภาษาเพิ่มเติมจะเข้ามามีบทบาทเพื่อแก้ไขเอาต์พุตที่ไม่สอดคล้องกัน TypeChat ไม่เพียงแต่แก้ไขอินสแตนซ์เหล่านี้โดยอัตโนมัติเท่านั้น แต่ยังสรุปและยืนยันความสอดคล้องกับความตั้งใจของผู้ใช้อีกด้วย
ผู้สร้าง TypeChat ก้าวเข้ามาอธิบายคำถามล่าสุดที่นักพัฒนาถามเกี่ยวกับ LLMs ที่โฆษณาล่าสุด พวกเขาเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีรวมโมเดลปัจจุบันเหล่านี้เข้ากับอินเทอร์เฟซแอพที่มีอยู่ วิธีปรับปรุง UI แบบดั้งเดิมด้วยอินเทอร์เฟซภาษาธรรมชาติ และวิธีใช้ประโยชน์จาก AI เพื่อแปลงคำขอของผู้ใช้ในรูปแบบที่แอพสามารถใช้ประโยชน์ได้ TypeChat คาดว่าจะตอบคำถามเหล่านี้ด้วยแนวทางปฏิบัติเพื่อปรับปรุงการพัฒนาส่วนต่อประสานภาษาธรรมชาติ
แพลตฟอร์มเช่น AppMaster deserve a special mention in this context, owing to the wide array of services they offer, remarkably similar to Microsoft's recent offering. AppMaster allows customers to visually create data models, thus facilitating software development even for users who are not technologically profound.