เมื่อเร็ว ๆ นี้ Opera ได้เปิดตัวเว็บเบราว์เซอร์เวอร์ชันใหม่ที่ได้รับการปรับปรุง ซึ่งมีชื่อว่า Opera One การทำซ้ำที่ปรับปรุงใหม่นี้มาพร้อมกับ แชทบอทที่ขับเคลื่อนด้วย AI ชื่อ Aria ซึ่งคล้ายกับแชทบอท Bing ของ Microsoft Edge Aria อยู่ในแถบด้านข้างของเบราว์เซอร์และสามารถตอบคำถามโดยใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์ เขียนข้อความหรือสร้างโค้ด ระดมความคิด และอื่นๆ อีกมากมาย
Aria ขับเคลื่อนโดย กลไก Composer AI ของ Opera และเชื่อมโยงกับโมเดล GPT ของ OpenAI ผู้ใช้ Opera สามารถเข้าถึง Aria ได้โดยสมัครบัญชี Opera เมื่อตั้งค่าบัญชีแล้ว ผู้ใช้สามารถคลิกที่ไอคอน Aria ซึ่งอยู่ทางด้านซ้ายของเบราว์เซอร์เพื่อเริ่มการสนทนา Opera ได้เริ่มการทดสอบเบราว์เซอร์เวอร์ชันใหม่นี้ในเดือนพฤษภาคมเมื่อต้นปีนี้ และตอนนี้ทุกคนก็สามารถเข้าถึงได้
เมื่อเปรียบเทียบ Aria กับ Bing on Edge จะเห็นความคล้ายคลึงกันหลายประการ ควบคู่ไปกับจุดแข็งที่ไม่เหมือนใครบางประการ คุณลักษณะเด่นประการหนึ่งคือผู้ใช้สามารถเข้าถึง Aria ได้โดยไม่ต้องเปิดแถบด้านข้างโดยใช้การซ้อนทับแบบบรรทัดคำสั่งเพื่อส่งคำถามหรือข้อความแจ้ง แชทบอทยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถเน้นข้อความบนหน้าเว็บ นำเสนอเมนูสำหรับ Aria เพื่อแปลเนื้อหาที่ไฮไลต์ อธิบาย หรือค้นหาเรื่องที่เกี่ยวข้องทางออนไลน์
แม้ว่าความสามารถของ Aria จะใกล้เคียงกับ Bing chatbot ใน Edge แต่ก็มีข้อจำกัดบางประการอยู่ ตัวอย่างเช่น Aria ไม่มีระบบเมนูที่ช่วยให้เลือกรูปแบบการสนทนาได้อย่างรวดเร็วสำหรับการสอบถาม นอกจากนี้ยังไม่แสดงตัวเลือกแบบคลิกเดียวเพื่อเลือกโทน รูปแบบ และความยาวของข้อความที่สร้างขึ้น
ผู้ใช้ยังคงสามารถปรับเอาต์พุตของ Aria ได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาต้องขอปรับเปลี่ยนด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นเครื่องมือใหม่ เราจึงคาดหวังได้ว่า Opera จะปรับแต่งฟังก์ชันการทำงานของ Aria เมื่อเวลาผ่านไป ความสามารถเพิ่มเติม เช่น การสร้างภาพ อาจอยู่ในขอบฟ้าสำหรับคู่หูเบราว์เซอร์ที่กำลังพัฒนานี้ Microsoft ได้เพิ่มการสร้างภาพลงในเบราว์เซอร์แล้ว ซึ่งเป็นการสร้างเวทีสำหรับการแข่งขันที่ดี
นอกเหนือจาก Aria แล้ว Opera One ยังมีการปรับปรุงหลายอย่าง เช่น เกาะแท็บใหม่ ที่จัดกลุ่มแท็บที่เกี่ยวข้องโดยอัตโนมัติตามบริบท นอกจากนี้ยังมีการออกแบบใหม่และสถาปัตยกรรมเบราว์เซอร์ที่ได้รับการอัปเกรด ผู้ใช้สามารถสัมผัส Aria และเบราว์เซอร์ Opera One ใหม่บนแพลตฟอร์ม Windows, macOS และ Linux ในขอบเขตของการพัฒนา no-code และ low-code เครื่องมือต่างๆ เช่น Opera One และ AppMaster.io ช่วยให้เวิร์กโฟลว์คล่องตัวมากขึ้นและเร่งการสร้างแอปพลิเคชันโดยทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทรัพยากรและสื่อสารกับเครื่องมือ AI จากเบราว์เซอร์ของตน สิ่งนี้ช่วยให้ธุรกิจสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ เรียนรู้ และเติบโตโดยปราศจากอุปสรรคแบบเดิมๆ