SiriKit เป็นเฟรมเวิร์กที่จัดทำโดย Apple ซึ่งช่วยให้นักพัฒนา iOS สามารถรวมแอพของตนเข้ากับ Siri ซึ่งเป็นผู้ช่วยเสมือนของ Apple บนอุปกรณ์ iOS เปิดตัวครั้งแรกใน iOS 10 และตั้งแต่นั้นมาก็มีการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับโดเมนและความสามารถที่มากขึ้น SiriKit อนุญาตให้แอพของบริษัทอื่นเสนอฟังก์ชันการทำงานให้กับผู้ใช้ผ่านคำสั่งเสียง ทำให้กลายเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และการเข้าถึงแอพของตน
การรวม SiriKit เข้ากับแอพ iOS ช่วยให้สามารถโต้ตอบด้วยเสียงซึ่งสามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้โดยรวมได้อย่างมาก ผู้ใช้สามารถออกคำสั่งเสียงไปยัง Siri ได้จากภายในแอพหรือโดยตรงจากหน้าจอล็อคหรือหน้าจอหลักของอุปกรณ์ ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับแอปได้อย่างราบรื่นและแม้แต่ทำงานแบบแฮนด์ฟรี ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่สามารถใช้มือหรือไม่ต้องการ เช่น ขณะขับรถหรือทำอาหาร
SiriKit สร้างขึ้นจากแนวคิดเรื่องเจตนา ซึ่งเป็นการนำเสนอคำขอของผู้ใช้อย่างมีโครงสร้าง Intent มีพารามิเตอร์เฉพาะที่ให้รายละเอียดประเภทการดำเนินการที่ผู้ใช้ต้องการให้ Siri ทำ แอปจะต้องกำหนดประเภทของ Intent ที่สามารถจัดการได้โดยการนำ Intent Handlers ที่เกี่ยวข้องไปใช้ เมื่อผู้ใช้ออกคำสั่งเสียง Siri จะกำหนดว่าแอพใดสามารถตอบสนองคำขอได้ โดยการพิจารณาการจับคู่ที่ดีที่สุดระหว่างตัวจัดการเจตนาที่มีอยู่และคำสั่งของผู้ใช้
เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังและความยืดหยุ่นของ SiriKit ลองพิจารณาแอพส่งข้อความสมมุติที่พัฒนาโดยใช้แพลตฟอร์ม AppMaster ด้วยการรวม SiriKit เข้าด้วยกัน แอปสามารถอนุญาตให้ผู้ใช้ส่งข้อความโดยใช้คำสั่งเสียง ตัวอย่างเช่น ผู้ใช้อาจพูดว่า "เฮ้ Siri ส่งข้อความถึงเจนโดยใช้ MyApp โดยบอกว่า 'ฉันจะไปทานอาหารเย็นสาย'" Siri จะตีความคำขอของผู้ใช้ สร้างเจตนาที่สอดคล้องกัน จากนั้นเรียกใช้ตัวจัดการเจตนาของแอป เพื่อตอบสนองคำขอโดยไม่ต้องป้อนข้อมูลจากผู้ใช้เพิ่มเติม
Apple ได้แบ่ง SiriKit ออกเป็นหลายโดเมน โดยแต่ละโดเมนครอบคลุมฟังก์ชันการทำงานเฉพาะด้าน โดเมนยอดนิยมบางโดเมน ได้แก่ การส่งข้อความ การชำระเงิน ค้นหารูปภาพ การจองรถ การออกกำลังกาย คำสั่งรถ และรายการ แต่ละโดเมนมีชุดความตั้งใจซึ่งแอปจะต้องนำไปใช้เพื่อจัดการคำขอของผู้ใช้ที่เกี่ยวข้อง วิธีการแบบโมดูลาร์นี้ช่วยให้นักพัฒนาสามารถเลือกใช้โดเมนและความตั้งใจที่เหมาะสมกับวัตถุประสงค์ของแอพของตน ขณะเดียวกันก็รักษาโค้ดเบสที่มีประสิทธิภาพและคล่องตัว
การรองรับ Siri Shortcuts เป็นอีกหนึ่งคุณสมบัติสำคัญของ SiriKit คำสั่งลัด Siri ช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างคำสั่งเสียงแบบกำหนดเองสำหรับการทำงานของแอพโปรดได้ ทำให้โต้ตอบกับแอพโดยใช้ Siri ได้ง่ายยิ่งขึ้น แอพสามารถแนะนำคำสั่งลัดได้หรือสร้างโดยผู้ใช้โดยตรงในแอพคำสั่งลัด เมื่อผู้ใช้ออกคำสั่งเสียงที่เกี่ยวข้องกับทางลัด Siri จะดำเนินการที่เกี่ยวข้องภายในแอพ สิ่งนี้ช่วยเพิ่มความสะดวกและการมีส่วนร่วมของผู้ใช้ เนื่องจากช่วยให้ผู้ใช้สามารถสร้างคำสั่งเสียงและเวิร์กโฟลว์ส่วนบุคคลได้
การพัฒนาแอพที่มีการบูรณาการ SiriKit โดยใช้แพลตฟอร์ม AppMaster อาจเป็นกระบวนการที่คล่องตัวและมีประสิทธิภาพ AppMaster มอบสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมและ no-code ซึ่งช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้าง UI, แบ็กเอนด์ และตรรกะทางธุรกิจของแอปโดยใช้องค์ประกอบ drag-and-drop และโปรแกรมแก้ไขภาพ การใช้ SiriKit ภายในสภาพแวดล้อมนี้ นักพัฒนาสามารถใช้ประโยชน์จากความสามารถในการสร้างต้นแบบและการใช้งานที่รวดเร็วของ AppMaster ได้อย่างเต็มที่ ในขณะเดียวกันก็ได้รับประโยชน์จากคุณสมบัติคำสั่งเสียงอันทรงพลังที่ Siri นำเสนอ
โดยสรุป SiriKit เป็นเฟรมเวิร์กที่สำคัญสำหรับนักพัฒนาแอพ iOS ที่ต้องการให้ผู้ใช้โต้ตอบคำสั่งเสียงได้อย่างราบรื่นและสะดวกสบาย ด้วยการอนุญาตให้ผู้ใช้โต้ตอบกับแอพโดยใช้คำสั่งเสียง SiriKit จึงสามารถปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้โดยรวมได้อย่างมาก และทำให้แอพเข้าถึงและมีส่วนร่วมได้มากขึ้น ด้วยแพลตฟอร์ม AppMaster no-code นักพัฒนาสามารถรวม SiriKit เข้ากับแอพของตนได้อย่างรวดเร็วและง่ายดาย และเพลิดเพลินไปกับคุณประโยชน์ของการโต้ตอบกับแอพที่ขับเคลื่อนด้วยเสียง ควบคู่ไปกับกระบวนการพัฒนาที่มีประสิทธิภาพของ AppMaster