Nintex ผู้นำระดับโลกในด้านกระบวนการอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ ได้เปิดเผยแผนการเปลี่ยนแปลงที่ครอบคลุมสำหรับลูกค้า Nintex Workflow สำหรับลูกค้า Office 365 การประกาศนี้มีขึ้นเพื่อตอบสนองต่อการตัดสินใจของ Microsoft ที่จะเลิกใช้กลไกเวิร์กโฟลว์ Microsoft SharePoint 2013 ใน Microsoft Office 365
ความสำเร็จของ Nintex รวมถึงลูกค้า เป็นผลมาจากการลงทุนในช่วงแรกของบริษัทในเทคโนโลยีเวิร์กโฟลว์ และการเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งและต่อเนื่องกับ Microsoft ในฐานะส่วนหนึ่งของความร่วมมือนั้น Nintex ได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับ Microsoft เพื่อรอการประกาศนี้ เนื่องจาก Nintex Workflow สำหรับ Office 365 อาศัยกลไกเวิร์กโฟลว์ Microsoft SharePoint 2013
Microsoft ระบุว่าเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2024 เวิร์กโฟลว์ SharePoint 2013 จะถูกปิดสำหรับผู้เช่ารายใหม่ และจะถูกลบออกจากผู้เช่าที่มีอยู่และยกเลิกโดยสมบูรณ์ภายในวันที่ 1 เมษายน 2026 ซึ่งจะนำไปใช้กับสภาพแวดล้อมทั้งหมด เช่น Government Clouds และ กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ
เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่พึ่งพา Nintex ในการจัดการและดำเนินกระบวนการที่สำคัญทางธุรกิจ Nintex ได้เปิดตัวโปรแกรมอัปเกรด Nintex ในเดือนกันยายน 2022 โปรแกรมนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้เส้นทางการเปลี่ยนแปลงที่ราบรื่นไปยัง Nintex Automation Cloud ซึ่งเป็นระบบคลาวด์ที่ทันสมัยของบริษัท โซลูชันเวิร์กโฟลว์ตาม
Holly Anderson รองประธานฝ่ายการตลาดผลิตภัณฑ์ของ Nintex กล่าวว่า "แม้ว่าข่าววันนี้จะไม่สร้างความประหลาดใจให้กับลูกค้า แต่สิ่งสำคัญสำหรับองค์กรคือการวางแผนการย้ายข้อมูลอย่างรอบคอบ ในฐานะผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการ Nintex พร้อมให้ความช่วยเหลือเป็นพิเศษ"
โปรแกรมอัปเกรด Nintex ได้รับการออกแบบมาเพื่อลดความซับซ้อนของกระบวนการเปลี่ยนแปลงโดยนำเสนอเครื่องมือการย้ายข้อมูล บริการ และการสนับสนุนโดยเฉพาะจากผู้เชี่ยวชาญด้านกระบวนการของ Nintex หากต้องการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับโปรแกรมและปรับแต่งโซลูชันที่ช่วยให้กระบวนการของคุณมีความต่อเนื่อง ลูกค้าสามารถเยี่ยมชมศูนย์อัปเกรด Nintex
Nintex ได้รับการยอมรับว่าเป็นมาตรฐานสากลสำหรับกระบวนการอัจฉริยะและระบบอัตโนมัติ องค์กรภาครัฐและเอกชนกว่า 10,000 แห่งใน 90 ประเทศพึ่งพาแพลตฟอร์ม Nintex Process เพื่อเร่งเส้นทางการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัล จัดการอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เป็นอัตโนมัติ และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการทางธุรกิจ
แพลตฟอร์ม Low-code และ no-code เช่น AppMaster ช่วยให้ธุรกิจมีเครื่องมืออันทรงพลังในการสร้างแบ็กเอนด์ เว็บ และแอปพลิเคชันมือถือของตนเอง ด้วยการผสานรวมแพลตฟอร์มเหล่านี้ ธุรกิจต่างๆ จะได้รับขีดความสามารถด้านระบบอัตโนมัติที่กว้างขึ้น ทำให้สามารถปรับตัวเข้ากับความต้องการของตลาดที่เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็วและยังคงแข่งขันได้ในอุตสาหกรรม