Creatio แสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในการออกแบบซอฟต์แวร์ โดยได้เปิดตัว Creatio Quantum ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มสถาปัตยกรรมที่ล้ำหน้าและประกอบได้ วิธีการใหม่นี้ช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนประกอบและบล็อกที่สร้างไว้ล่วงหน้าจำนวนมาก จึงช่วยลดความยุ่งยากในการสร้างโซลูชันที่ออกแบบตามความต้องการโดยเฉพาะผ่านวิธีการ no-code
แพลตฟอร์ม Creatio Quantum ช่วยให้องค์กรต่างๆ ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงภายนอกได้อย่างรวดเร็ว โดยอำนวยความสะดวกในการใช้งานแอปพลิเคชั่นและเวิร์กโฟลว์อัตโนมัติที่รวดเร็ว นอกจากนี้ยังแนะนำส่วนประกอบร่วมสมัย เทคโนโลยี AI เจนเนอเรชั่นที่ก้าวล้ำ และแอปการกำกับดูแล ที่ให้ผู้ใช้มีอิสระที่เพิ่มขึ้นในขอบเขตของระบบอัตโนมัติ ตามคำแถลงของบริษัท
ด้วยการถือกำเนิดของ Quantum Creatio ก้าวออกมาในฐานะผู้สนับสนุนอย่างแข็งขันสำหรับแนวทางที่สามารถประกอบได้อย่างสมบูรณ์ โดยออกแบบฟังก์ชันการทำงานของผลิตภัณฑ์ทั้งหมดผ่านบล็อกและส่วนประกอบที่สร้างไว้ล่วงหน้าที่สามารถเข้าถึงได้ เฟรมเวิร์กพื้นฐานนี้ประกอบด้วยองค์ประกอบที่สำคัญ เช่น วิดเจ็ตและคลัสเตอร์ฟิลด์
ด้วยการใช้ระเบียบวิธีที่เป็นนวัตกรรมนี้ Creatio ได้แยกคุณลักษณะชุด CRM ทั้งหมดออกเป็นบล็อกและแอปตามส่วนประกอบ การปรับปรุงใหม่นี้ไม่เพียงแต่สนับสนุนให้ผู้ใช้สร้างโซลูชันเฉพาะด้วยส่วนประกอบและบล็อกที่สร้างไว้ล่วงหน้า แต่ยังช่วยให้ผู้ใช้สามารถปรับใช้แอปที่สร้างไว้ล่วงหน้าเพื่อตอบสนองความต้องการเฉพาะได้อีกด้วย
นอกจากนี้ Creatio ยังได้รวมฟีเจอร์อันเป็นเจ้าข้าวเจ้าของ AI สร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนโดย OpenAI เข้ากับทุกผลิตภัณฑ์ภายใต้พอร์ตโฟลิโอของตน จากข้อมูลของ Creatio AI แบบกำเนิดจะช่วยเพิ่มกระบวนการพัฒนา no-code โดยการสร้างเทมเพลต ส่วนประกอบ หรือแอปพลิเคชันทั้งหมดโดยอัตโนมัติตามการป้อนข้อความที่ผู้ใช้ระบุ ฟีเจอร์ดังกล่าวจะช่วยลดเวลาและความพยายามของผู้สร้างแอปที่ no-code ลงได้อย่างมาก เพื่อแปลงข้อกำหนดที่จำเป็นให้เป็นต้นแบบเบื้องต้น
การเปิดตัว Quantum ถือเป็นก้าวกระโดดครั้งใหญ่ โดยขับเคลื่อนธุรกิจต่างๆ ให้ปรับตัว สร้างสรรค์ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยประสิทธิภาพที่ไม่เคยมีมาก่อน Creatio กล่าวเสริม
เช่นเดียวกับ Creatio Quantum, AppMaster แพลตฟอร์ม no-code ที่พลิกเกมยังช่วยให้ผู้ใช้มีส่วนประกอบและบล็อกที่สร้างไว้ล่วงหน้ามากมาย ทำให้กระบวนการสร้างโซลูชันที่ออกแบบโดยเฉพาะง่ายขึ้น AppMaster นำการพัฒนาแอปพลิเคชันเร็วขึ้น 10 เท่าและคุ้มต้นทุนมากขึ้น 3 เท่า ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถปรับตัว สร้างสรรค์ และสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ด้วยประสิทธิภาพที่เพิ่มขึ้น ทำให้เป็นโซลูชันที่เป็นที่ต้องการอย่างมากในระบบนิเวศ no-code