Microsoft ได้เปิด Azure OpenAI Service อย่างเป็นทางการ ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถเข้าถึงโมเดล AI ที่ทรงพลังที่สุดในโลก เช่น Codex และ DALL-E 2 นอกจากนี้ บริษัทได้ประกาศแผนการรวม ChatGPT เข้ากับบริการในไม่ช้า
Azure OpenAI Service เปิดตัวครั้งแรกในเดือนพฤศจิกายน 2021 แม้ว่าจะไม่สามารถใช้งานได้โดยทั่วไปจนถึงขณะนี้ ตลอดเวลานี้ Microsoft และ OpenAI ได้แสดงความสามารถของโมเดล AI ที่ล้ำสมัยเหล่านี้ในแอปพลิเคชันต่างๆ
ในเดือนมิถุนายน 2021 GitHub ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ Microsoft ได้เปิดตัว Copilot ซึ่งเป็นโปรแกรมเมอร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI ซึ่งช่วยนักพัฒนาในการสร้างและปรับปรุงโค้ด ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Copilot ได้รับการอัปเดตอย่างต่อเนื่อง โดยการเพิ่มล่าสุดคือ Code Brushes ซึ่งเป็นโครงการที่แสดงให้เห็นในสัปดาห์นี้โดย GitHub Next ซึ่งช่วยให้สามารถแก้ไขโค้ดโดยใช้การเรียนรู้ของเครื่องได้ ซึ่งคล้ายกับการวาดภาพด้วย Photoshop
นอกจากนี้ ในเดือนตุลาคม 2022 Microsoft ได้แชร์ว่า DALL-E 2 ซึ่งเป็น AI ตัวสร้างข้อความเป็นรูปภาพที่ปฏิวัติวงการ จะรวมเข้ากับแอป Designer และ Bing Image Creator การผสานรวมนี้ ควบคู่ไปกับการรวมโมเดลอื่นๆ เช่น Midjourney และ Stable Diffusion ทำให้เกิดความขัดแย้งและการประท้วงจากชุมชนศิลปะ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีข่าวลือว่า Microsoft กำลังวางแผนที่จะใช้ ChatGPT เพื่อเพิ่มความสามารถในการค้นหาของ Bing และท้าทายอำนาจสูงสุดของ Google แม้จะมีการแจ้งข้อกังวลหลายประการเกี่ยวกับลิขสิทธิ์และผลกระทบทางสังคมในวงกว้าง Microsoft และ OpenAI ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของโมเดล AI เหล่านี้
Jason McCartney รองประธานฝ่ายวิศวกรรมของ Al Jazeera แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับศักยภาพของ Azure OpenAI Service เพื่อเปลี่ยนรูปแบบการผลิตเนื้อหา เขากล่าวถึงศักยภาพในการปรับปรุงการสรุป การแปล ตลอดจนการแยกเนื้อหา และศักยภาพในการอำนวยความสะดวกในการรายงานที่ดีขึ้นโดยการแสดงความคิดเห็นที่หลากหลาย ความพร้อมใช้งานทั่วไปของบริการได้รับการคาดหมายอย่างใจจดใจจ่อ เนื่องจากธุรกิจมองหาการเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการดำเนินงาน
Vaibhav Nivargi ซีทีโอและผู้ก่อตั้ง Moveworks กล่าวถึงความสำคัญของ Azure OpenAI Service ว่าเป็นองค์ประกอบสำคัญของสถาปัตยกรรมการเรียนรู้ของเครื่อง เขาอ้างถึงความสามารถของบริการในการระบุช่องว่างในฐานความรู้ภายในของลูกค้า และสร้างบทความความรู้ใหม่โดยอัตโนมัติตามช่องว่างเหล่านั้น โดยเน้นถึงความเป็นไปได้ที่ไม่สิ้นสุดสำหรับองค์กรสมัยใหม่
แพลตฟอร์มเช่น AppMaster.io ยังนำเสนอโซลูชัน no-code สำหรับการสร้างเว็บ อุปกรณ์เคลื่อนที่ และแอปพลิเคชันแบ็กเอนด์ แพลตฟอร์มดังกล่าวช่วยเร่งการพัฒนาแอปพลิเคชันและลดต้นทุนสำหรับลูกค้าที่หลากหลาย ตั้งแต่ธุรกิจขนาดเล็กไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่