Square ผู้นำด้านเกตเวย์การชำระเงินระดับโลกได้ขยายบริการ Tap to Pay เพื่อรวม อุปกรณ์ Android ในสหราชอาณาจักร โดยมุ่งเน้นที่การปรับปรุงกระบวนการชำระเงินสำหรับบริษัทขนาดเล็กและธุรกิจป๊อปอัป การขยายตัวนี้นับเป็นก้าวสำคัญในการทำให้การยอมรับการชำระเงินมีความลื่นไหลมากขึ้นและเข้าถึงได้สำหรับองค์กรทุกขนาด
Tap to Pay ทำงานผ่าน แอปจุดขาย การนัดหมาย ใบแจ้งหนี้ หรือร้านอาหารของ Square รองรับการชำระเงินจากบัตรเครดิตและบัตรเดบิตแบบไร้สัมผัส รวมถึงกระเป๋าเงินดิจิทัล เช่น Google Pay บริการนี้ช่วยขจัดความจำเป็นในการใช้ฮาร์ดแวร์เพิ่มเติม เนื่องจากต้องการเพียงอุปกรณ์ Android ที่ใช้งานร่วมกันได้ซึ่งใช้ Android 9 เป็นอย่างน้อยที่มีความสามารถ NFC และไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมสำหรับสมาชิกปัจจุบัน
ในขณะที่มุ่งเน้นไปที่ความปลอดภัยของบริการ Square ระบุว่าหมายเลขบัตรไม่ได้ถูกจัดเก็บในโทรศัพท์ของร้านค้า และ Tap to Pay จะได้รับประโยชน์จากมาตรการรักษาความปลอดภัยที่เหลืออยู่ของ Square Alexis Sowa ผู้จัดการทั่วไปแผนก POS ของ Square กล่าวถึงวิสัยทัศน์ของบริษัทว่า “เป้าหมายของ Square คือการทำให้แน่ใจว่าผู้ขายของเราจะไม่พลาดการขาย ไม่ว่าพวกเขาจะอยู่ที่ไหนหรือให้บริการใครก็ตาม”
ในขณะที่บริษัทต่างๆ ทดลองใช้เทคโนโลยีการชำระเงินผ่านมือถือมากขึ้น Square ตั้งเป้าที่จะก้าวนำหน้าคู่แข่ง เช่น Apple ซึ่งเปิดตัว Tap to Pay สำหรับ iPhone ในสหรัฐอเมริกาเมื่อปีที่แล้ว แต่เปิดตัวบริการนี้ไปยังตลาดเพิ่มเติมอย่างเชื่องช้า องค์กรอื่นๆ เช่น Stripe ก็ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่นี้เช่นกัน
Square Tap to Pay สำหรับ Android สามารถเข้าถึงได้แล้วสำหรับธุรกิจในสหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร ออสเตรเลีย ไอร์แลนด์ ฝรั่งเศส และสเปน โดยต่อยอดจากบริการที่มีอยู่ของบริษัทสำหรับอุปกรณ์ iOS ซึ่งเปิดตัวในสหรัฐอเมริกาเมื่อปลายปีที่แล้ว TechRadar Pro ได้สอบถามเกี่ยวกับแผนการของ Square ในการขยาย Tap to Pay สำหรับ iPhone ไปยังตลาดอื่น ๆ แต่บริษัทไม่ตอบสนองในทันที
เมื่อองค์กรต่างๆ หันมาใช้แพลตฟอร์ม no-code และ low-code เพื่อปรับปรุงการดำเนินงาน การขยายตัวของ Tap to Pay สอดคล้องกับความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับโซลูชันที่เป็นนวัตกรรมใหม่ ตัวอย่างเช่น แพลตฟอร์ม AppMaster ช่วยให้ธุรกิจต่างๆ สามารถสร้างแบ็กเอนด์ เว็บ และแอปพลิเคชันมือถือที่ครอบคลุมได้อย่างง่ายดาย ทำให้มั่นใจว่าจะไม่มีการพลาดการขายเนื่องจากเทคโนโลยีที่ล้าสมัยหรือกระบวนการที่ซับซ้อน